พิธา ลั่นผมพร้อมเป็นนายกฯ

62

ที่โรงแรมดิอิมพีเรียล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ศูนย์ประสานพรรคก้าวไกลโคราช จัดกิจกรรมนัดหมายสมาชิกพรรคก้าวไกล พบปะแลกเปลี่ยนรับฟังความคิดเห็นกับ สส.ก้าวไกล จ.นครราชสีมา ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ เขต 2 นายปิยชาติ รุจิพรวศิน และเขต 3 นายศุทธสิทธิ์ พจน์ฐศักดิ์

โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โฟนอินกับด้อมส้มโคราชกว่า 100 คน นายพิธา กล่าวว่า ขอขอบคุณการทำงานอย่างหนักในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. ทำให้เราสามารถเจาะไข่แดง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของโคราช ได้ สส. 3 เขต ในฐานะที่เราเป็นพรรคใหม่ เป็นพรรคที่ถูกบดขยี้และถูกยุบพรรคมา

ตนในฐานะเป็นผู้นำสู้ศึกการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก รวมทั้งผู้สมัครหลายคนเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ได้รับเลือกเป็น สส.เขต และ สส.บัญชีรายชื่อ ถือเป็นสิ่งที่เราต้องภาคภูมิใจ นายพิธา กล่าวต่อว่า ภารกิจในการเดินหน้าต่อไป ต้องทำงานการเมืองเชิงรุก เพื่อเป็นพรรคของมวลชน มีกำลังขับเคลื่อน นำเสนอกฎหมายก้าวหน้าให้ประชาชนมีส่วนร่วม

สำหรับจำนวนสมาชิกพรรคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีกว่า 70,000 คน และมีผู้สมัครเฉลี่ย 8,000-9,000 รายต่อเดือน คาดว่าปลายปีจะมีสมาชิกร่วมแสนคน ทำให้ก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่มีสมาชิกมากที่สุด นายพิธา กล่าวว่า ทั้งนี้ ประสบการณ์การหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ระยอง แสดงให้เห็นว่าการเมืองมีการปรับฐานคะแนนความนิยม

สำหรับแฟนการเมืองที่รู้สึกผิดหวังและรู้สึกอกหัก ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ แล้วแพ้การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. ได้เดินเข้ามาหาตน และบอกว่าจะเลือกก้าวไกล เพราะไม่ต้องการเสื้อเหลือง หรือกปปส. นายพิธา กล่าวต่อว่

มีความเกลียดชังในระบบคอร์รัปชั่น ระบบอุปถัมภ์ และทุนผูกขาด ต้องการบุคคลที่เข้ามาต่อสู้กับระบบเหล่านี้ ต้องเป็นคนอย่างนายรังสิมันต์ โรม และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขณะเดียวกันพี่น้องคนเสื้อแดงได้มาพูดคุยให้เหตุผลที่เลือกพรรคก้าวไกล

ไม่ใช่เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัคร แต่เพราะต้องการต่อสู้กับสองมาตรฐานและเกลียดชังการรัฐประหาร มีความรู้สึกว่าพรรคการเมืองเดียวที่สามารถต่อสู้กับการทำรัฐประหาร รักษาให้ความเป็นคนเท่ากัน คือพรรคก้าวไกลเท่านั้น

ดังนั้น บุคคลเหล่านี้ต้องการหาแพลตฟอร์มทางการเมืองที่สานต่ออุดมการณ์ ซึ่งทุกสายตาจ้องมองมาที่พรรคก้าวไกล การรับสมัครสมาชิกต้องให้ความสำคัญ และเดินหน้าโอบรับประชาชนทุกคนที่มีแนวคิดและนโยบายในทิศทางเดียวกับเรา

การจะสลายขั้วความขัดแย้งในประเทศไทยได้อย่างแท้จริง คือการคืนความศรัทธาให้กับนักการเมือง คืนความศรัทธาให้ระบบรัฐสภา ตนพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทุกคน นายพิธา กล่าว