วันที่ 4 ก.ย.2566 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข อำลาตำแหน่งรัฐมนตรี โดยสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีอยู่บนแท่นฐานเดียวกัน
และพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก่อนพบกับผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากร สธ.ที่ห้องประชุมชั้น 2 โดยร่วมร้องเพลงช่วงที่ดีที่สุด พร้อมกัน นายอนุทิน กล่าวว่า
ยอมรับว่าใจหาย เพราะทำงานร่วมกันมา 4 ปีเศษ ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดที่ได้ทำงานร่วมกัน ไม่รู้สึกว่าเหน็ดเหนื่อย ท้อถอยหรือท้อใจ เพราะอยู่ท่ามกลางคนที่เราไว้ใจมั่นใจและรักผูกพัน เวลาก็จะผ่านไปด้วยความรวดเร็ว
ถือว่าตนและนายสาธิตโชคดีที่ได้เข้ามาบริหาร สธ. ไม่ใช่เพราะเป็นกระทรวงเกรด A แต่เพราะบุคลากร สธ. คือบุคลากรเกรด A++ มีคุณภาพตั้งแต่ผู้บริหาร ข้าราชการ อาสาสมัคร ที่ตอบสนองนโยบาย ใส่ใจ ใช้สติปัญญาความรู้ความสามารถและประสบการณ์ เป็นพลังบวกที่ส่งออกไปยังประชาชน
ใครที่มาอยู่กระทรวงนี้ รู้สึกได้ถึงประโยชน์อันมหาศาลที่ สธ.ได้ทำให้แก่ประชาชน 4 ปีที่ผ่านมา จะบอกว่าหนัก แต่หนักด้วยความสนุกกับงาน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำงานร่วมกัน ใครมีดีตรงไหน ก็ใส่สิ่งที่ดีลงมารวมกันและทำให้เราฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ทำให้วิกฤตกลับมาเป็นโอกาส
อยากให้ทุกท่านภาคภูมิใจ สิ่งที่เราทำเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย มีพระราชดำรัสถึงพวกเราที่ล้วนแต่เป็นมงคล หลังวิกฤตคลี่คลายสิ่งที่ทำและเหลือไว้ คือระบบการแพทย์การสาธารณสุขที่แข็งแกร่งเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น พัฒนาคุณภาพการให้บริการ ระบบต่างๆ อย่างก้าวกระโดด นายอนุทินกล่าว
หวังว่าเมื่อผมพ้นจากกระทรวงนี้ไปแล้วไปปฏิบัติหน้าที่ใหม่ คือ กระทรวงมหาดไทย มีสโลแกนว่า บำบัดทุกข์บำรุงสุข เรียกว่ารูทของหลักการดูแลประชาชนไม่ต่างกัน หวังว่าจะเกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันที่ดี เกิดผลประโยชน์แก่ประชาชนอย่างมหาศาล
ดีใจที่รัฐบาลใหม่ตัวเองได้ทำงานร่วมกับ สธ.ต่อ ทั้งมหาดไทย แรงงาน ศึกษาธิการ และ อว. ก็จะมีงานที่เชื่อมโยงกับ สธ.ได้ นายอนุทินกล่าว
