ชงยกคำร้อง พิธา เหตุไม่พบไอทีวีประกอบกิจการ-มีรายได้สื่อ

61

“ขณะเปิดสมัครรับเลือกตั้ง สส. วันที่ 4-7 เม.ย. ไม่พบว่า บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) มีการประกอบกิจการอยู่และมีรายได้จากการเป็นสื่อแต่อย่างใด”

ภายหลังจากที่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า สำนวนการสอบสวน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตรา 151

เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (6) เหตุมีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น

โดยล่าสุดมีรายงานว่า ผลสอบจากคณะกรรมการไต่สวน ได้เสนอความเห็นว่าเห็นควรให้ ยกคำร้อง ด้วยเหตุผลว่า การดำเนินการตามมาตรา 151 เป็นคดีอาญาที่ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน แต่ขณะเปิดสมัครรับเลือกตั้ง สส. วันที่ 4-7 เม.ย. ไม่พบว่า บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) มีการประกอบกิจการอยู่และมีรายได้จากการเป็นสื่อแต่อย่างใด

ทั้งนี้คณะกรรมการไต่สวน ได้สรุปสำนวนและเสนอไปยังเลขาธิการกกต. ซึ่งได้มอบรองเลขาธิการกกต. ให้ดำเนินการจ่ายสำนวนดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องพิจารณา ตามที่ระเบียบกกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาด 2563 กำหนด ก่อนจะเสนอให้ กกต. วินิจฉัย

ทั้งนี้ การพิจารณาเรื่องร้องเรียน ร้องคัดค้านของคณะอนุวินิจฉัยหลายกรณี เมื่อสอบสวนแล้วไม่เห็นด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการไต่สวน โดยเมื่อคณะอนุวินิจฉัยได้รับสำนวนหากเห็นว่ามีประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน มีข้อสงสัยก็จะดำเนินสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งการเรียกผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง

ซึ่งในกรณีคาดว่า คณะอนุวินิจฉัยฯจะมีการสอบสวนเพิ่มเติม และแจ้งให้ นายพิธา ได้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา รวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะรอคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี กกต. ยื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ขอให้วินิจฉัยสถานะ สส. นายพิธา จากเหตุเดียวกัน ก่อนที่จะสรุปสำนวนพร้อมความเห็นเสนอ กกต. พิจารณา