จากเหตุการณ์ ไอ้หน่อง ท่าผา นายธนัญชัย หมั่นมาก ลูกน้องกำนันนก หรือ นายประวีณ จันทร์คล้าย ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว (สารวัตรแบงค์) สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต และศาลจังหวัดนครปฐม อนุมัติหมายจับ กำนันนก ทันที
จากนั้นกำนันนก ได้เข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม ส่วนไอ้หน่องถูกวิสามัญที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อวาน (8 ก.ย. 2566) ที่ผ่านมา
ขณะที่ตำรวจ 25 นาย ที่อยู่ที่เกิดเหตุแต่ไม่ช่วยเพื่อนตำรวจด้วยกัน แถมกลับปล่อยให้คนร้ายหลบหนี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์
ผบ.ตร. มีคำสั่งย้ายเข้ากรุ พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน หากมีความผิดจะดำเนินการทางอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด
หากมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับนายตำรวจทั้ง 25 นาย ทางทีมข่าวจะมารายงานให้ทราบโดยเร็วที่สุด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2566 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข้อกฎหมายเอาไว้ว่า
คดีนี้ กำนันนก ถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานสังหารผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามสังหารผู้อื่น โทษประหารชีวิต
และ พยายามสังหารผู้อื่น คือ ยิง รอง ผกก. 2 บก.ทล. แต่ไม่เสียชีวิต อันนั้นก็โดน รับโทษ 2 ใน 3 ของประหารชีวิต
ในส่วนที่ กำนันนก ใช้ให้แม่บ้านให้ทำความสะอาดสถานที่ทั้งหมดเพื่อทำลายความผิดนั้น หากแม่บ้านมารู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นการทำลายหลักฐาน
แม่บ้านก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 184 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
แต่ถ้าเกิดทางตำรวจกันแม่บ้านไว้เป็นพยาน อันนี้ก็ไม่มีความผิดอะไร
ส่วน กำนันนก ที่สั่งลูกน้องทำลายพยานหลักฐาน เพื่อช่วยเหลือตัวเอง ไม่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่มีความผิดตามกฎหมาย
ส่วนของการต่อสู้ทางคดี ตามพยานหลักฐานในชั้นศาล
หากตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ 25 นาย ซึ่งถือเป็นประจักษ์พยาน ให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อกำนันนก ที่จะสามารถหลุดคดีได้
แต่ก็เชื่อว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำคดีนี้อย่างเต็มที่ เพื่อภาพลักษณ์ของวงการตำรวจที่สูญเสียกำลังพลที่ถือเป็นตำรวจน้ำดีไป
