เจอแล้ว ครูพี่เลี้ยงทำร้ายเด็ก 280 ชีวิต สถานสงเคราะห์

40

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพี่เลี้ยงสถานสงเคราะห์เด็กหญิงจังหวัดสระบุรี กระทำความรุนแรงต่อเด็กที่อยู่ในการดูแลว่า หลังทราบข้อมูล เบื้องต้นกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้สั่งการให้พี่เลี้ยงที่ก่อเหตุหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที

พร้อมทั้งได้มีการแจ้งความดำเนินคดี และได้สั่งย้ายผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ดังกล่าว มาปฏิบัติราชการที่ ดย.ส่วนกลาง และได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมีทีมสหวิชาชีพร่วมกับตำรวจดำเนินการสอบข้อเท็จจริงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด หากมีใครเกี่ยวข้องอีกก็จะต้องดำเนินการเอาผิดเพิ่มเติม รวมถึงการรวบรวมข้อมูลจากเด็กทั้งหมดที่อยู่ในความดูแล

เบื้องต้น ที่ได้รับรายงานมีเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรงประมาณ 9 คน ช่วงอายุ 6 ปีขึ้นไป ซึ่งได้คัดแยกเด็กกลุ่มดังกล่าวออกจากพื้นที่มาอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและเยาวชนในพื้นที่ใกล้เคียงชั่วคราว เพื่อคลายความวิตกกังวล และได้ส่งนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา ประเมินและฟื้นฟูเยียวยาจิตใจเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรงแล้ว

ส่วนเด็กคนอื่นๆ ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์มีทั้งหมดรวม 169 คนส่วนใหญ่ยังอยู่ในความดูแลโดยปกติ ส่วนพี่เลี้ยงที่ทำร้ายเด็กเบื้องต้นมีรายงานคนเดียว อายุ 30 กว่าปีเป็นอัตราจ้างเหมาซึ่งอยู่มานานเกิน 12 ปี

ปลัด พม. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ได้เรียกประชุมด่วนผู้บริหารทุกกรม เพื่อปฏิรูปจัดระบบสถานสงเคราะห์และสถานรองรับทั่วประเทศที่ดูแลผู้รับบริการทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งเด็กเยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการอย่างเร่งด่วน เป็นการเซ็ตระบบใหม่ให้มีมาตรฐานการดูแลผู้รับบริการ ปรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพ

โดยจะให้มีการหมุนเวียนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ปกครองสถานสงเคราะห์และหัวหน้าบ้านพักเด็กและเยาวในแต่ละพื้นที่ที่ทำงานมานานเกิน 3 ปี

เนื่องจาก บางพื้นที่มีปัญหาการทำงานมานานจนขาดความกระตือรื้อร้น ขาดความเอาใจใส่ รวมถึงจะต้องมีการประเมินและพัฒนาทักษะพี่เลี้ยงผู้ให้บริการเป็นระยะ ไม่ใช่ปล่อยให้จ้างเหมาไปเรื่อยๆ โดยไม่มีเกณฑ์ประเมิน ทั้งนี้ หากไม่มีการดำเนินการใดๆ ไม่มีมาตรการที่เข้มงวด ตนก็มีตัวชี้วัดที่จะดำเนินการ หากเกิดเหตุร้องเรียนที่ไหนและไม่มีมาตรการใดๆ ก็จะต้องย้ายอธิบดีที่รับผิดชอบเช่นกัน

นายอนุกูล กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเกิดเหตุร้องเรียนในสถานสงเคราะห์เอกชน พม.ก็กำชับมาตรการดูแลเข้มงวด แต่ครั้งนี้เกิดเหตุในสถานสงเคราะห์ของรัฐเอง ต้องยอมรับผิดและขอโทษสังคมอย่างยิ่ง เพราะผู้ปกครองคาดหวังในหน่วยงานรัฐที่จะช่วยเหลือดูแลเด็กอย่างดี แต่กลับมาก่อปัญหา จึงต้องเร่งแก้ปัญหาทั้งระบบโครงสร้าง รวมถึงบุคลากร นำวิกฤติเป็นโอกาสที่จะต้องเคลียร์ทั้งระบบให้ชัดเจน