โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพเด็กหญิงนั่งอยู่บนชักโครก ภายในห้องน้ำ โดยมีเชือกสีเขียวรัดที่ปาก แขน และขา ส่วนอีกภาพเป็นภาพของเด็กนอนเรียงกัน 3 คน อยู่ใต้อ่างล้างมือภายในห้องน้ำ พร้อมกับระบุว่า “ได้รับรู้เรื่องนี้มา ไม่นิ่งนอนใจที่จะหาทางตีแผ่สู่สังคม เด็กกว่า 280 ชีวิต ต้องเผชิญกับความโหดร้ายจากสังคมภายนอกมาแล้ว ยังต้องมาเจอความโหดร้ายจากผู้ดูแล ทำไมมาตรการการทำผิดต้องมีห้องมืด”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังพยาบาลวิชาชีพอยู่ที่สถานสงเคราะห์แห่งหนึ่ง ใน จ.สระบุรี เล่าว่า เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ด้วยความที่ตนเองเป็นพยาบาลและนักจิตวิทยา ก็สังเกตเห็นความผิดปกติของเด็ก ดูไม่ค่อยร่าเริง เวลาคุยด้วยจะไม่กล้าสบตา
กระทั่งวันหนึ่ง มีเด็กเข้ามาทำแผลที่ห้องพยาบาล สังเกตเห็นบาดแผลบริเวณขา จึงถามเด็กว่าโดนอะไรมา เด็กตอบว่าโดนแม่ตี เคยรายงานผู้ใหญ่ให้ทราบ แต่พี่เลี้ยงก็อ้างว่าเด็กดื้อ จำเป็นต้องตี
หลังจากนั้นได้มีโอกาสคลุกคลีกับเด็กมากขึ้น จนเด็กเล่าให้ฟังว่า มีพี่เลี้ยงหลายคนที่ทำทารุณกับเด็ก จะโดนพี่เลี้ยงลงโทษด้วยวิธีการหลากหลาย ส่วนใหญ่จะทำร้ายร่างกาย เคยมีคนโดนเตะจนตกบันได ถีบตกเก้าอี้ ถีบอัดตู้ ทั้งยังโดนขังในห้องมืดซึ่งทำเหมือนในคุก
บางครั้งก็เอาเด็กไปแช่ในท่อน้ำทิ้ง ซึ่งมีแต่น้ำสกปรก และยังมีสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค และมีพิษ อยู่ภายในท่อ เรียกได้ว่าเด็กโดนจนชิน และจะมีคำเรียกการลงโทษนี้ติดปากว่าโดนลงหลุม เด็กบางคนยังโดนบังคับให้นอนในห้องน้ำ โดนมัดมือมัดเท้า และมัดปาก บางคนโดนจับโกนผมลงโทษก็มี
หลังจากที่รับทราบเรื่องราวจากเด็กๆ ตนมีโอกาสได้เห็นภาพการถูกทารุณกรรม จึงรายงานให้ผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ได้ทราบ และมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า เพราะพี่เลี้ยงเด็กที่ก่อเหตุ ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้วย จึงอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลตรวจสอบด้วย
