เผยคำพูดพี่ชายฝากถึงน้องสาว หลังหอบรางวัลที่ 1 หนีไปกับผู้ชายคนใหม่

33

เรียกว่าเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจและได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก จากกรณี นายมะนิช ปราณี อายุ 49 ปี พร้อมญาติและลูก 3 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ธวัชบุรี ว่าถูก นางอังคนารัตน์ กลั่นมณี อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นเมียที่อยู่กินมากันมา 26 ปี หอบเงินรางวัลที่ตนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 จำนวน 6 ล้านบาท หนีตามผู้ชายไป พร้อมกับสมุดบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาธวัชดินแดง และได้ถูกเบิกเงินออกไป 2 ล้านบาทแล้ว ต่อมา พอลูกชายทราบเรื่องว่าแม่นอกใจพ่อ ก็โทรศัพท์ไปต่อว่าจนปิดโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ จึงโร่แจ้งตำรวจเพื่อขออายัดบัญชี แต่ไม่สำเร็จ

เพราะตำรวจบอกว่าบัญชีเป็นชื่อเมียและไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จึงพากันเดินคอตกกลับบ้าน พร้อมวอนให้ผู้สื่อข่าวช่วยลงข่าวตามหาเมียให้กลับมาหาตนและลูกด้วย กลัวถูกผู้ชายปอกลอกจนหมดตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง ตำบลธวัชบุรี อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด พบกับ นายสีทัด สวัสดิ์เอื้อ อายุ 55 ปี พี่ชายของนางอังคณารัตน์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ช่วงค่ำวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา น้องสาวได้มาบอกกับตนว่า ให้พาไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากฯ โดยบอกว่าจะให้เงินตนมาทำทุน 30,000 บาท และจะแบ่งให้สามี 1,000,000 บาท เพื่อไปดูแลพ่อแม่ที่แก่ชรา

หลังจากนั้น ก็พาน้องสาวและน้องเขยขับรถไปที่กองสลาก ซึ่งระหว่างทางได้แวะไปที่ปั๊มน้ำมันใน จังหวัดสระบุรี โดยน้องสาวบอกว่า จะขอเซ็นชื่อหลังสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะสามีอาจจะไม่สะดวกในการเซ็นขอขึ้นเงิน เพราะเรียนมาน้อย เขียนหนังสือไม่ได้ ซึ่งหลังจากน้องสาวได้เซ็นชื่อแล้ว ก็ได้ถ่ายรูปไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังสลาก ก่อนจะเดินทางไปกองสลากเพื่อขึ้นเงินรางวัลจำนวน 6,000,000 บาท โดยทางกองสลากมีการหักภาษีไว้ส่วนหนึ่ง ต่อมาก็ได้เดินทางกลับมาบ้าน น้องสาวก็บอกจะโอนให้สามี 1,000,000 บาท

ภาพจาก ไทยรัฐ

โดยได้ไปเปิดบัญชีใหม่ ก่อนจะมีการโอนเงินเข้าให้ 1,000,000 บาท แล้วก็มีการเบิกออกมาใช้จ่ายประมาณ 300,000 บาท ซึ่งตนก็ไม่ทราบรายละเอียดว่าเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง กระทั่งช่วงค่ำวานนี้ ทราบว่าน้องสาวได้หนีออกไปจากบ้าน พร้อมกับบัญชีสามีที่เปิดเอาไว้ ตนก็รู้สึกสงสารเพราะน้องเขยเป็นคนดี เป็นคนซื่อ อ่านเขียนไม่ค่อยได้เพราะเรียนมาน้อย ก็จะมีแต่ภรรยาจัดการให้ทั้งหมด ส่วนเรื่องราวทะเลาะเบาะแว้งก็มีกันอยู่ประจำ เพราะน้องสาวตนเป็นคนพูดมาก พูดจาโผงผาง จึงมักจะทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็เป็นฝ่ายสามียอมมาโดยตลอด จนมีลูกด้วยกันถึง 3 คน ก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ สุดท้ายอยากฝากถึงน้องสาวให้กลับมาเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น จะจัดสันปันส่วนอย่างไรก็ให้มีความเหมาะสมทั้งลูก หลานและสามี อย่าทิ้งครอบครัวไปมีความสุขเพียงคนเดียว

ขอบคุณ บทสัมภาษณ์จากไทยรัฐ