จากกรณีกลุ่มผู้เสียห ายกว่า 30 ราย ได้รับความเดือดร้อ นจากการนำรถยนต์เข้าซ่อมที่อู่ซ่อ มรถยนต์ชื่อดังใน จ.ชลบุรี รวมตัวร้องฝ่ายปกคร อง สำนักงานยุติธรรมจังหวัดชลบุรี เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่ไม่ซื่อตรงของเจ้าของอู่รถยนต์ในพื้นที่ หลังส่งรถเข้าซ่อมนานหลายเดือน แต่ไม่ได้รับการซ่อมแซม ทำให้เกิดความเสียห าย อีกทั้งอะไหล่รถยนต์ยังสูญหายเกือบหมด โดยอู่ซ่อมรถยนต์ดังกล่าวตั้งอยู่ใน ต.หนองข้างคอก อ.เมืองชลบุรี
มีลักษณะคล้ายโกดัง ด้านในมีรถยนต์จอดอยู่เกือบ 20 คัน ทุกคันอยู่ในลักษณะจอดซ่อมนานจนฝุ่นเกาะ ต่อมามีการไปออกสื่อหลายช่องโดยเจ้าของอู่รับปากต่อหน้าสื่อและประชาชนว่าจะรับผิดชอบ แต่ปรากฏว่ายังเหมือนเดิมไม่มีการรับผิดชอบแต่ประการใด ความคืบหน้าวันที่ 25 ต.ค. 2565
ผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเอารถไปซ่อมที่อู่ดังกล่าวกว่า 30 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี เพื่อเอาผิดเพิ่มเติม เนื่องจากเจ้าของอู่ยังคงบ่ายเบี่ยงไม่ชดใช้ความเสียหาย แล้วยังท้าทายไม่เกรงกลัวก ฎหม าย พร้อมยังมีการโทรศัพท์ไปข่มขู่ผู้เสียหาย
ซึ่งผู้เสียหายได้นำหลักฐานมาประกอบ เพื่อให้ดำเนินการทางก ฎหม ายให้ถึงที่สุด น.ส.ศุภรัตน์ ทองวนิช อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเอาส่วนหน้ารถกระบะมาเทิร์น ซึ่งเป็นของใหม่ โดยตกลงกับเจ้าของอู่ว่าจะต้องหาหน้ารถมาเปลี่ยนให้ใหม่และเพิ่มเงินให้อีก 3 หมื่นบาท แต่ผ่านไปหลายเดือน รถไม่เสร็จ อะไหล่ก็หาย
จึงรวมตัวร้องเรียนเจ้าของอู่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครได้รับค่าเสียหาย จึงต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีตามก ฎหม าย เพราะเขารับปากว่าจะรับผิดชอบ แต่ก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลย แถมติดต่อไม่ได้ กระทั่งติดต่อได้เขาบอกให้ไปฟ้องร้องเอาเอง ด้าน พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี เปิดเผยว่า
ได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และยังไปดูที่เกิดเหตุ ซึ่งในตอนนั้นเป็นคดีแพ่ง ให้มีการตกลงกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ส่วนที่เจ้าของอู่พูดเหมือนไม่เกรงกลัวกฎหมายนั้น ขอยืนยันว่า ทางเจ้าของอู่ไม่ได้มีอิทธิพลใดๆ เป็นบุคคลธรรมดา ตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงเวลานี้ เจ้าของอู่ไม่เคยติดต่อมา ซึ่งตอนนี้ทางพนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายจับในข้อหาลักทรัพย์และรับของโจรแล้ว เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามก ฎหม ายต่อไป
