บ่าว-สาว ประกาศตัดขาด เผยเคยรักมากแม้ซกมก ผ้าห่มมีเห็ดขึ้น

36
บ่าว-สาว ประกาศตัดขาด เผยเคยรักมากแม้ซกมก ผ้าห่มมีเห็ดขึ้น

กลายเป็นกรณีดราม่าขึ้นมา หลังเจ้าสาวรายหนึ่งถูกเจ้าบ่าวเทงานแต่งงาน ทั้งที่ตกลงเรื่องสินสอดกันไว้แล้ว 149,999 บาท แต่พอถึงเช้าวันแต่งงานทางฝ่ายชายกลับมาบอกว่าสินสอดไม่พอ ขอต่อเหลือ 15,000 บาท จึงบอกไปว่าไม่มีสินสอดไม่ต้องแต่ง สุดท้ายเจ้าสาวต้องเข้าพิธีคนเดียวโดยไร้เงาเจ้าบ่าว ขณะที่ต่อมาเจ้าบ่าวออกมาโต้กลับ อ้างว่าในช่วงเช้ามีญาติเจ้าสาวโทร. มาขอเพิ่มสินสอดเป็น 200,000 บาท ถ้าไม่มีไม่ต้องมา จึงไม่ได้ยกขันหมากไป

ล่าสุด (27 มิถุนายน 2565) รายการโหนกระแส ทางช่อง 3 ได้เชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมีการเปิดเผยว่า คู่บ่าวสาวที่เป็นประเด็นคือ แฮ็ค ปิยะราช วัย 36 ปี และ แพม ธารารัตน์ วัย 33 ปี ทั้งคู่คบหากันมานานกว่า 2 ปีแล้ว และพ่อของทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาก่อน จากนั้นได้ตกลงหมั้นหมายในวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา และมีกำหนดจะแต่งงานกันในวันที่ 26 พฤษภาคม แต่ต้องเลื่อนมาเป็นวันที่ 18 มิถุนายน เนื่องจากพ่อแม่เจ้าสาวติดCV-19

ที่มาที่ไป เหตุการณ์วันที่ถูกเทงานแต่งงาน

แพม ธารารัตน์ เจ้าสาวถูกเท เปิดเผยว่า ทั้งที่มีการเตรียมงานทุกอย่างหมดแล้ว แต่ในเช้าวันที่ 18 มิถุนายน นางบรรดล แม่เจ้าบ่าว กลับเดินมาบอกว่าเงินสินสอดไม่พอ มีแค่ 15,000 บาท จากที่เรียกไป 149,999 บาท และทองคำ 2 บาท (ฝั่งเจ้าบ่าวให้ทองมา 1 บาทแล้วในวันหมั้น)

นางวิไล แม่เจ้าสาว เผยว่า เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน ทางฝั่งเจ้าบ่าวมีการทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือเรียกขวัญให้แฮ็ค โดยมีการเชิญตนไปด้วย จากนั้นนางบรรดลก็มาดึงตนไปพูดคุยในห้อง ว่าได้พูดคุยกับเจ้าสาวและพ่อแล้ว บอกว่าแฮ็คได้เงินมาไม่พอ เหลือแค่ 15,000 บาท ถ้าเอาเงินสินสอดไปให้ก็ขอให้ห่อเงินนำเข้าห้องไปเลย ไม่ต้องนับ ซึ่งตนรู้สึกว่าจริง ๆ ตามประเพณีต้องมีการนับ

นางวิไล ชี้ว่าหากมีการปรึกษากันแล้วจริง เหตุใดสามีกับลูกของตนจึงไม่ได้มาบอก เลยบอกไปว่าจะไม่รับปากเรื่องนี้ ให้ฝั่งเจ้าบ่าวไปพูดคุยกับสามีและลูกสาวของตนก่อน ส่วนแพมก็เพิ่งมาทราบเรื่องนี้ตอนเช้าวันแต่งงาน

ฝั่งเจ้าสาวเผยว่า ได้เสียค่าใช้จ่ายจัดงานไปหมดแล้ว โดยมีการล้มวัว จ้างวงดนตรี ซึ่งแม่เจ้าสาวกับเจ้าสาวจ่ายเงินไปแล้ว เป็นเงินกว่า 160,000 บาท เกือบ 170,000 บาท

ฝั่งเจ้าบ่าวรับ มีสินสอดไม่พอจริง ๆ หาได้แค่ 15,000

ด้าน นางบรรดล ยอมรับว่าได้บอกกับแม่เจ้าสาวไปว่า ลูกหาเงินมาได้เพียง 15,000 บาท แล้วที่เหลือได้มาเท่าไหร่ก็จะหาใส่เพิ่มให้ ซึ่งได้คุยกับ นายมานิตย์ พ่อเจ้าสาวแล้ว

ทั้งนี้ ทางฝั่งพ่อแม่เจ้าบ่าวยืนยัน ว่าพ่อเจ้าสาวบอกว่าหากไม่มีเงิน 200,000 บาท กับทองอีก 2 บาท ก็ไม่ต้องยกขันหมากมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายมานิตย์เคยพูดกับ นายทองใบ พ่อของเจ้าบ่าวว่า ให้หาทอง 1 บาทมาหมั้นกันก่อน ถ้าวันแต่งงานถ้าเงินไม่มีพอ ได้เท่าไหร่ก็เอาเพราะรักลูกเขยคนนี้

อย่างไรก็ตาม นายมานิตย์ ปฏิเสธว่าไม่เคยพูดเรื่องที่บอกว่าไม่เอาเงินก็ได้ ขอแค่ทอง 1 บาท

เจ้าบ่าวเปิดใจ ทำไมถึงทิ้งเจ้าสาว ลั่นเขาดูเหมือนไม่รักผม

ด้าน แฮ็ค ปิยะราช เผยถึงสาเหตุที่ไม่ยกขันหมากไป เป็นเพราะพ่อของตนไปคุยกับพ่อเจ้าสาว ว่าหากไม่มีเงิน 200,000 บาท กับทอง 2 บาท ไม่ต้องไป นอกจากนี้ตนดูลักษณะและพฤติกรรมของแพม ดูเหมือนจะไม่รักตนเลย จริง ๆ โทร. มาบอกตนก่อนก็ได้ว่าให้ขึ้นไปคุยกัน มาคุยว่ามีเท่าไหร่ก็เอาไปก่อน

เมื่อถามว่าเหตุใดเจ้าบ่าวถึงไม่ยอมไปคุยกับฝั่งเจ้าสาวด้วยตัวเอง แฮ็ค ปิยะราช ชี้ว่าหากแพมจริงจังกับตนจริง ๆ ก็ควรจะคุยกับแม่ตนดี ๆ ไม่ใช่บอกว่าถ้าไม่มี 200,000 กับทอง 2 บาท ไม่ต้องมา มีบอกจะไปแจ้งความ จะไปฟ้องตน อย่างไรก็ตามในส่วนนี้แฮ็คไม่ได้เห็นหรือได้ยินเอง เป็นสิ่งที่รับฟังมาจากแม่อีกที และก็เชื่อเพราะแม่เป็นคนพูด

“ผมได้ยินคำนี้ใจผมสลายเลย” แฮ็ค ระบุ

อ้างทยอยโอนสินสอดให้แล้ว รวมกว่า 70,000 – เจ้าสาวงง ไม่รู้เรื่อง

ด้าน แพม ปฏิเสธว่าไม่เคยพูดกับแม่เจ้าบ่าวเช่นนั้น มีแค่ถามถึงเรื่องเงินค่าสินสอด 30,000 บาท ว่าไปโอนมาให้ตนเมื่อไหร่ เพราะทางเจ้าบ่าวอ้างว่าโอนมาให้แล้ว

ในส่วนนี้ แฮ็ค ชี้ว่าจริง ๆ แล้วตนโอนเงินไปให้มากกว่านั้น โดยโอนไปวันละเล็กละน้อย บางครั้ง 100 – 200 บาท บางครั้งอาจจะมากกว่านั้น รวมเป็นเงินกว่า 70,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่โอนให้เจ้าสาวเก็บไว้เป็นค่าสินสอด

อย่างไรก็ตาม แพม ชี้ว่าแฮ็คไม่เคยบอกว่าเงินส่วนนี้จะให้เก็บไว้เป็นค่าสินสอด แต่เป็นเงินไว้ใช้จ่าย เพราะฝ่ายชายเคยบอกว่าจะเลี้ยงดูเอง จะได้ไม่ต้องไปขอเงินแม่

แม่ยันลูกสาวรักแฟนมาก ซกมกจนเห็ดขึ้นผ้าห่ม ยังยอมไปอยู่ด้วย

ทั้งนี้ แม่เจ้าสาวเผยว่า แพมรักแฮ็คมากถึงขนาดทะเลาะกับพ่อแม่ เพื่อจะไปอยู่กับฝ่ายชาย ยอมทิ้งชีวิตสบายไปอยู่กับเขาแม้จะมีสภาพห้องสุดลำบาก ก่อนหน้านี้แฮ็คยังเคยบังคับลูกสาวจะให้หลับนอนด้วย หลังลูกสาวปฏิเสธเพราะแฮ็ค ไม่ยอมอาบน้ำ

แพม ยังเผยถึงความซกมกของฝ่ายชาย ว่าไม่ดูแลความสะอาดห้องพัก เคยไปเจอผ้าห่มถูกทิ้งไว้จนมีเห็ดราขึ้น พัดลมก็ไม่ล้าง ซึ่งตนก็ยอมไปทำความสะอาดให้ ซึ่งในส่วนนี้แฮ็คชี้ว่า จริง ๆ ตนก็ซักบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยจะสะอาดเท่าไหร่ ซึ่งตนก็งานยุ่ง ทำความสะอาดแล้วแต่เห็ดก็ขึ้นมาเอง ส่วนผ้าที่เห็ดขึ้นก็มีทิ้งไปบ้างแล้ว

ทำยังไงถึงจะจบ ไม่อย่างนั้นเจอฟ้อง เรียก 500,000

ทั้งนี้ สำหรับสิ่งที่ฝ่ายเจ้าสาวต้องการในขณะนี้ คือเรื่องทั้งหมดจะจบหากฝ่ายเจ้าบ่าวยอมจ่ายเงินค่าเสียหายที่ใช้ในการจัดพิธีไป จำนวนเงินกว่า 160,000 บาท มิเช่นนั้นก็จะฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายจำนวน 500,000 บาท ประกอบไปด้วยเงินค่าจัดง่าย ค่าจ้างวงดนตรี ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตลอดจนค่าเสียหายที่ทำให้อับอาย ซึ่งขณะนี้ได้ให้ทนายเข้ามาจัดการแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายทองใบ พ่อเจ้าบ่าว ยืนยันเสียงแข็งว่า จะไม่จ่าย เพราะไม่มีเงิน หรือต่อให้มีเงินก็จะไม่จ่ายให้อยู่ดี หากฝ่ายเจ้าสาวจะฟ้องก็เชิญ หลังจากนั้นก็ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของศาล

แพม – แฮ็ค ตัดขาด หมดรัก ไม่กลับไปรักกันแน่นอน

เมื่อถามว่ายังรักกันหรือไม่ แฮ็ค ชี้ว่า ถ้าแต่ก่อนก็รัก แต่ปัจจุบันถ้าดูลักษณะแบบนี้ก็เลิกกัน ไม่รักแล้ว ถึงอยู่กันไปถ้าเป็นลักษณะนี้ก็คงจะไม่มีความสุข

ขณะที่ แพม ยอมรับว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่รักแฮ็คตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน ที่เขาไม่ก้าวขาเข้ามาที่งานแต่งงานแล้ว และยืนยันว่าจะไม่มีวันกลับไปรักกันอีก

ที่มา รายการโหนกระแส